รวมเทคนิคดูแลสุขภาพผู้ชายวัย 30+
ผู้ชายทุกคนเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี จะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งทางสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ เพราะระบบการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะการเสื่อมสภาพลงอย่างชัดเจน อาจทำให้ไม่แข็งแรงเท่ากันช่วยวัย 20 ปีตอนปลายที่ยังมีความกระฉับกระเฉงมากกว่า ดังนั้นเพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีสมวัยการเอาใจใส่เพื่อดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณมองข้ามไม่ได้ วันนี้ Trin Wellness จะมาแนะนำกับเคล็ดการดูแลสุขภาพผู้ชายในวัย 30+ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างและต้องปรับพฤติกรรมอย่างไรถึงจะดี
ความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพผู้ชายวัย 30+
- ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายได้น้อยลง เฉลี่ยลดลงปีละ 1% ตั้งแต่วัย 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่างทั้งการทานอาหาร การพักผ่อนและการออกกำลังกาย
- อาการทางกายเริ่มเปลี่ยนแปลง มีอาการอ่อนเพลียมากขึ้น ไม่ค่อยสดชื่นหรือกระปรี้กระเปร่าเหมือนเคย
- ระบบการเผาผลาญไม่เหมือนเดิม เพราะสารเมตาบอลิซึมที่ช่วยควบคุมเรื่องการเผาผลาญมีประมาณลดลง อาจทำให้มีไขมันส่วนเกินมากขึ้นได้
- รูปร่างที่เปลี่ยนไป เช่นเริ่มอ้วนลงพุงชัดมากขึ้น ผิวหนังไม่เต่งตึง ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยและมีรอยย่น บางคนอาจเริ่มประสบปัญหาผมบางร่วมด้วย
- อารมณ์แปรปรวนง่าย จากการที่ฮอร์โมนเพศชายลดลงทำให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด โมโหง่าย ควบคุมอารมณ์ได้ยาก หลับยากและหลับไม่ค่อยสนิท และอาจความเครียดสะสมได้ง่าจากภาระงานที่รับผิดชอบ
- ความต้องการทางเพศไม่เหมือนเดิม ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเรื่องของอารมณ์ที่แปรปรวน ซึ่งบางคนอาจประสบปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ในวัย 30 กลาง ๆ ค่อนไปทางวัย 40
เทคนิคการดูแลสุขภาพผู้ชายในวัย 30+
การดูแลสุขภาพผู้ชายวัย 30+ สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ทั้งในด้านของอาหารการกิน การพักผ่อน การออกกำลังกาย และการรับประทานวิตามินอาหารเสริมที่จำเป็นต่อร่างกาย จะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน
1.ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน
หมดเวลาการโหมงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เพราะในวัย 30 ปีขึ้นไปควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เฉลี่ยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการผลิตฮอร์โมนเพศหรือเทสโทสเตอโรนซึ่งจะผลิตได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่คุณพักผ่อน
2.ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร
สุขภาพผู้ชายที่ดีควรเริ่มตั้งแต่การทานอาหาร ด้วยช่วงวัยที่ระบบเผาผลาญร่างกายไม่ได้มีประสิทธิภาพเหมือนเคย ทำให้การเลือกทานอาหารคือสิ่งจำเป็น โดยสิ่งที่ควรลดลงคืออาหารประเภทแป้ง ไขมัน และน้ำตาล เพราะสารอาหารกลุ่มนี้หากมีการเผาผลาญไม่หมด ส่วนเกิดที่เหลืออาจไปสะสมตามชั้นกล้ามเนื้อตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ และไขมันส่วนเกินอาจไปเกาะตามผนังหลอดเลือดได้ ดังนั้นการเน้นทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพิ่มเมนูผักผลไม้ให้มากขึ้น สามารถช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลมากขึ้น
3.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็น
ถึงแม้ว่าการทานอาหารครบ 5 หมู่จะช่วยให้ร่างกายรับสารอาหารได้อย่างครบถ้วน แต่บางครั้งมันก็อาจยังไม่เพียงพอในแต่ละวัน ดังนั้นการมองหาอาหารเสริมและวิตามินเสริมต่าง ๆ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยบำรุงสุขภาพผู้ชายวัย 30+ ได้เป็นอย่างดี เช่น
- แร่ธาตุซิลิเนียม (Selenium) มีส่วนช่วยในการเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย เพราะเป็นอาหารสำคัญที่อัณฑะและต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิต้องการ ช่วยชะลอวัยและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- วิตามิบี เป็นส่วนช่วยเสริมสร้างความสดชื่นให้ร่างกาย มีประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- แอลคาร์เนทีน (L-carnitine) เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายให้นำไปใช้เป็นพลังงานได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย
4.หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลควบคู่กับการควบคุมอาหาร โดยในหนึ่งสัปดาห์ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยครั้งละ 30-60 นาที เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างฮอร์โมนเพศชายและคงสภาพมวลกล้ามเนื้อเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
5.ลดความเครียดคลายความวิตกกังวล
ในช่วงวัย 30 ปีขึ้นไปอาจมีภาวะอารมณ์แปรปรวนได้บ่อย ๆ ดังนั้นคุณควรหาวิธีลดความเครียดและคลายกังวลจากภาระงานที่ยุ่งยากในแต่ละวันเพื่อลดภาวะเครียดสะสม เช่น งานอดิเรก การฟังเพลง การดูหนัง การอ่านหนังสือ ช่วยให้คุณอารมณ์ดีมีจิตแจ่มใสได้และทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย
ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ชายวัย 30+ ไม่ควรละเลย
นอกจากการดูแลสุขภาพด้วยเทคนิคที่แนะนำไปในข้างต้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ชายวัย 30+ ไม่ควรละเลยก็คือการเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อที่จะได้รู้จักร่างกายของตนเองได้ดีขึ้น สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Tesrosterone level test) ซึ่งถือเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ถ้าขาดไปแล้ว จะส่งผลต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สภาวะอารมณ์ต่าง ๆ ความเครียด ระดับการเผาผลาญ ผิวพรรณ ไปจนถึงภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุนเลย ยิ่งตรวจเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถแก้ไข หรือชะลอความเสื่อมสมรรถภาพเพศชายได้เร็วเท่านั้น!
สรุปเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้ชายวัย 30+
สุขภาพผู้ชายวัย 30+ ขึ้นเป็นสิ่งที่ควรให้สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้คุณสุขภาพแบบองค์รวมของคุณมีความแข็งแรงสมวัยและทำให้ห่างไกลจากภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด การทำงานของหัวใจ รวมไปถึงสมรรถภาพทางเพศด้วยเช่นกัน และอีกสิ่งที่คุณจะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือการตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจไขมันในเลือด เป็นวิธีเดียวที่ทำให้คุณว่าสุขภาพโดยรวมตอนนี้เป็นอย่างไร เพื่อให้คุณวางแผนการใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Leave a reply
Leave a reply