เอ็นไขว้หน้าขาด อาการที่นักกีฬาต้องรู้จักและรีบรักษา
เอ็นไขว้หน้าขาด นับเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนอาจเคยประสบ มักพบได้บ่อยครั้งโดยเฉพาะการบาดเจ็บในคนเล่นกีฬา ทำให้ไม่สามารถลงเข้าแข่งขันต่อได้ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้ขาเป็นหลัก เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล บาสบอล และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ต้องเข้ารับการรักษา หรืออาจมีการผ่าตัดเกิดขึ้น
ไม่ใช่เพียงคนเล่นกีฬาเท่านั้นที่เกิดภาวะนี้ขึ้น บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นกับเราแล้ว จากการประสบอุบัติเหตุทั้งเล็กหรือใหญ่ในชีวิตประจำวันของเราก็ได้ สำหรับคนที่สงสัยว่าอาการเอ็นไขว้หน้าขาดนั้นเป็นอย่างไร? ในบทความนี้ TRIN WELLNESS จะมาพูดถึงลักษณะอาการ สาเหตุ และวิธีปฐมพยาบาลในเบื้องต้น เพื่อรู้เท่าทัน และรีบรักษาเอ็นไขว้หน้าขาดได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดภาวะเข่าเสื่อมขึ้นนั่นเอง
เอ็นไขว้หน้าขาด คืออะไร?
เอ็นไขว้หน้าขาด (ACL Injury) คือ ภาวะเอ็นไขว้หน้า (ACL : Anterior Cruciate Ligament) ที่เกิดการฉีกขาดจากการได้รับบาดเจ็บ ก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งเอ็นไขว้หน้าจะอยู่ที่ข้อเข่าทางด้านหน้า มีหน้าที่เพิ่มความมั่นคงให้กับข้อเข่าขณะมีการเคลื่อนไหว ยิ่งเป็นช่วงการบิดตัวหรือแม้แต่หมุนตัว จะต้องใช้เอ็นไขว้หน้าส่วนนี้ในการควบคุม ทำให้ล็อกข้อเข่าไม่ให้ทรุดและเข่ามีความมั่นคงยิ่งขึ้น หากเอ็นส่วนนี้ขาดจะได้ยินเสียงลั่นในข้อ (Audible Pop) ขึ้น ขณะที่เคลื่อนไหว อาการนี้จะก่อให้เกิดอาการเข่าบวมและเลือดออกในหัวเข่า โดยจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังจากเอ็นไขว้หน้าขาด เมื่อเกิดความผิดปกตินี้ควรรีบพบแพทย์โดยทันที เนื่องจากอาจมีเลือดออกในข้อหรืออาจกระดูกแตกร่วมด้วยได้
หากได้รับการบาดเจ็บแต่ไม่ได้เกิดอาการบวมที่เกิดขึ้นอย่างเร็ว ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการบาดเจ็บเนื้อเยื่อทั่วไป ให้ลดการเดินหรือใช้งานข้อเข่าเป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ อาจการเหล่านี้จะดีขึ้นได้ตามการดำเนินไปของเวลา แต่ถ้าเกิดอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์โดยทันทีเพื่อตรวจอย่างละเอียด และทำการรักษาต่ออย่างถูกวิธี
เอ็นไขว้หน้าขาด มีอาการอย่างไร
อาการที่บ่งบอกว่าเกิดภาวะเอ็นไขว้หน้าขาด เราสามารถสังเกตอาการได้ง่าย ๆ ในเบื้องต้นได้ด้วยตนเองได้จากอาการดังต่อไปนี้
- รู้สึกว่าได้ยินเสียงหรือมีเสียงดังลั่นบริเวณในข้อเข่า
- เจ็บและปวดบริเวณข้อเข่า
- เข่าเกิดอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด และรู้สึกว่าข้อเข่าไม่มีความมั่นคง
- ลงน้ำหนักเข่าได้ไม่เต็มที่ เวลาเดินจะรู้สึกติดขัด
- บางรายหัวเข่าใช้งานไม่ได้หรือข้อเข่าหลวม ต้องรักษาก่อนถึงจะกลับมาเดินได้ปกติ
- หัวเข่าบวมทันที หรือภายใน 24 ชั่วโมง
- เกิดอาการปวดรุนแรง จนไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
จากอาการเอ็นไขว้หน้าขาดที่กล่าวมาในข้างต้น นับว่าเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ทำให้ต้องสังเกตตนเองให้ดีว่ากำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หนักกว่าเดิม ซึ่งถ้าปล่อยไว้นาน ๆ จะก่อให้เกิดหมอนรองข้อฉีกขาด งอเข่าไม่ลง ปวดบริเวณข้อ และเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมได้ในที่สุด
สาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาด
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดนั้น มีด้วยกัน 2 ประการหลัก ๆ นั่นก็คือ การได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ และที่ไม่ได้เกิดจากการปะทะ ในหัวข้อนี้จะมาอธิบายรายละเอียดของสาเหตุเหล่านี้ไปพร้อมกัน แต่ก่อนอื่นมารู้กันก่อนว่าใครบ้างที่เสี่ยงต่อเอ็นไขว้หน้าขาดกันบ้าง?
- ผู้ที่เล่นกีฬา : การเล่นกีฬาทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดได้ง่ายและพบบ่อย เนื่องจากการเล่นกีฬาจะต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่มีจังหวะการหยุด การเร่ง การกระโดด หรือแม้แต่การเปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหัน รวมถึงเกิดการกระแทกและปะทะกันในขณะที่เล่นกีฬา ล้วนส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้ได้
- เพศหญิง : ซึ่งผู้หญิงจะมีสรีระร่างกายที่ต่างกันจากผู้ชาย โดยข้อเข่าของผู้หญิงจะมีมุมมากกว่า และมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน้อยกว่าเพศชาย ส่งผลให้เวลาที่ขยับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การกระโดด การเดิน หรือมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะมีความเสี่ยงได้รับความบาดเจ็บได้ง่ายกว่าผู้ชาย
1. การบาดเจ็บที่เกิดจากการปะทะ
นับว่าเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดปัญหาเอ็นไขว้หน้าขาด โดยเกิดจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้
- มีการบิดของเข่าเมื่อมีการเสียบหรือเกิดการปะทะขึ้นมา เมื่อเล่นกีฬาอย่าง เช่น ยูโด แบดมินตัน บาสบอล ฟุตบอล และเทควันโด เป็นต้น
- มีการกระโดดแล้วผิดท่าจนทำให้ได้รับการบาดเจ็บ หรือรีบยกเท้ามากเกินไป
2. การบาดเจ็บที่ไม่ได้เกิดจากการปะทะ
ในกรณีนี้ส่วนใหญ่แล้วมาจากปัญหากล้ามเนื้อที่ตึงจนเกินไป ไม่มีความยืดหยุ่น และไม่แข็งแรง ส่งผลทำให้เข่าได้รับการบาดเจ็บได้ง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการจะดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือบางรายก็เกิดอาการสะสมมาเรื่อย ๆ จนฉีกขาดในที่สุด
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเอ็นไขว้หน้าขาด
หากเกิดการบาดเจ็บจนทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดนั้น สามารถดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้ด้วยวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
- ให้ผู้ป่วยนอนนิ่ง ๆ พยายามอย่าขยับตัว ให้รอผู้อื่นมาช่วยต่อไป
- รีบทำการประคบเย็นให้ไวที่สุด เพื่อลดอาการปวดและลดบวมได้ เนื่องจากเส้นเลือดหดตัว เลือดจะไหลออกน้อยกว่าเดิม
- ให้ปล่อยเวลาไปสักพักหนึ่ง แล้วทำการขยับเข่า ให้ลองพยายามงอเข่าและเหยียดเข่าดู จากนั้นค่อย ๆ ลงน้ำหนัก แต่ต้องไม่ฝืนตัวเองจนเกินไป
- สังเกตตนเองดูว่าเจ็บบริเวณไหน? บวมหรือไม่? ใช้ระยะเวลานานแค่ไหนถึงบวม? รวมไปถึงฟังเสียงว่าเกิดการฉีกขาดของเอ็นหรือไม่? หลังจากที่ได้รับการบาดเจ็บ
- ในกรณีที่ข้อเข่าผิดรูป ห้ามทำการกด ดึง หรือปรับเองโดยเด็ดขาด ต้องรอแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
สรุปบทความ
เอ็นไขว้หน้ามีหน้าที่เพิ่มความมั่นคงให้กับข้อเข่าขณะมีการเคลื่อนไหว แต่หากเมื่อไหร่ที่เอ็นไขว้หน้าขาด นับว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก บางรายต้องรักษาด้วยการผ่าตัด และนอนพักรักษาตัวเป็นระยะเวลาหลายเดือน ปัญหานี้มักเกิดจากทั้งการปะทะ และที่ไม่ได้เกิดจากการปะทะ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น จะช่วยให้ไม่เกิดอาการที่หนักกว่าเดิม ที่อาจนำไปสู่ปัญหาข้อเข่าเสื่อมในอนาคต
อีกทั้งในปัจจุบันนี้ยังมีนวัตกรรมที่ทันสมัยที่เรียกกันว่า PRP จะช่วยฟื้นฟูร่างกายด้วยเกล็ดเลือดของตนเอง โดยนวัตกรรมนี้สามารถฉีดได้ทั่วร่างกาย สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดี รวมไปถึงปัญหาข้อเข่าเสื่อมที่พบบ่อย ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อย่าง TRIN WELLNESS เพราะเรามีบริการด้านดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
หากคุณเป็นคนที่อยากถนอมร่างกายของตนเอง ให้แข็งแรงและสุขภาพดีอยู่เสมอ สามารถติดต่อสอบถามเราได้ที่โทร (097) 265-5994 (สาขาพระราม 9) และ (090) 965 9989 (สาขาที่ภูเก็ต)
Leave a reply
Leave a reply