เจาะลึกนวัตกรรม PRP ช่วยอะไรได้บ้าง
ในปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการรักษาและบรรเทาความเสื่อมของร่างกาย ด้วยนวัตกรรมการแพทย์ที่ทันสมัยมากมาย แต่ที่ตอบโจทย์จนอดพูดถึงกันไม่ได้เลยนั่นก็คือ PRP นวัตกรรมที่ช่วยในการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย ทั้งในแง่ความเสื่อมของร่างกาย ที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ บรรเทาอาการจากการฉีกขาดของเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ และยังใช้บำรุงผิวหน้าได้อีกด้วย
ประโยชน์ต่อร่างกายของ PRP ที่หลากหลายเหล่านี้ จึงทำให้หลายคนอยากรู้และอดสงสัยกันไม่ได้ว่านวัตกรรมนี้ คืออะไร และ PRP ช่วยอะไรอีกได้บ้าง? ในบทความนี้จะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกัน
PRP ช่วยอะไรได้บ้าง
PRP ช่วยอะไรได้บ้าง? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับ PRP กันก่อนว่าคืออะไร? เพื่อจะได้เข้าถึงประโยชน์ได้อย่างแท้จริง PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือ เป็นนวัตกรรมการรักษาบนพื้นฐานของกระบวนการรักษาตัวเองด้วยวิธีตามธรรมชาติ
โดยจะนำเลือดในปริมาณเล็กน้อยมาปั่นจนได้เป็นพลาสมาและเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งมีความเข้มข้นมากกว่าเกล็ดเลือดทั่ว ๆ ไปอย่างน้อย 5 เท่า จากนั้นจะฉีดส่วนนี้กลับเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา โดย RPR จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- เพื่อลดความเจ็บปวด โดยเฉพาะบริเวณที่ได้รับการบาดเจ็บ หรือมีการอักเสบของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่มีการอักเสบด้วย
- ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมร่างกาย จากความเสื่อมของเนื้อเยื่อและเอ็น
- กระตุ้นการหายของแผล และช่วยลดการอักเสบของแผลได้
- กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้เซลล์ผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพ ได้รับการฟื้นฟูและกลับสู่เซลล์วัยเยาว์อีกครั้ง
การใช้นวัตกรรม PRP เป็นที่นิยมมาใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย เพราะมีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นเลือดของคนไข้เอง ที่นำมาใช้ในการรักษา โดยส่วนมากจะนิยมนำมาใช้รักษาอาการเหล่านี้
รักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ
- รองช้ำกระดูกสะโพกด้านนอก
- กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
- กล้ามเนื้อต้นขาด้านนอก และด้านหลัง
- กล้ามเนื้อน่อง
รักษาอาการเอ็นฉีกขาด
- เอ็นหัวไหล่อักเสบ หรือฉีกขาด
- เอ็นอักเสบบริเวณข้อพับเข่าด้านหลัง
- เอ็นอักเสบที่ข้อศอกด้านนอก
- เอ็นกล้ามเนื้อเคล็ด ขัด ยอก
- เอ็นกล้ามเนื้อพังผืดอักเสบ
- เอ็นไขว้หน้าเข่าบาดเจ็บ
- เอ็นร้อยหวายอักเสบ
- เอ็นข้อเท้าบาดเจ็บ
- เอ็นหน้าเข่าอักเสบ
- เอ็นขาหนีบอักเสบ
- เอ็นสะโพกอักเสบ
- เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
รักษาอาการข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม
- ข้อศอก ปุ่มกระดูกข้อศอกบาดเจ็บ
- ข้อสะโพกเสื่อม
- ข้อเข่าเสื่อม
- หมอนรองข้อเข่าฉีก
- กระดูกสะบ้าอักเสบ
- ข้อเท้าเคล็ด
- ข้อไหล่อักเสบ
ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศชาย
PRP ช่วยอะไร? อีกหนึ่งมิติที่หลายคนไม่รู้ถึงประโยชน์ของ PRP ว่าสามารถช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศชายได้ด้วย เนื่องจากในปัจจุบันนี้ทั้งความเครียด มลภาวะแวดล้อม การพักผ่อนน้อย ล้วนส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศจะเสื่อมได้ อาจพบปัญหานกเขาไม่ขัน ไม่ฟิต ไม่เสร็จกิจ หรือเรือล่มกลางคันขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้หมดความมั่นใจ
สำหรับแนวทางการรักษาด้วยวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลระยะยาว จะนิยมใช้ PRP เพื่อการกระตุ้นหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศ จะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศชายด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ
ช่วยลดปัญหาผิวหน้า
PRP ช่วยอะไรได้อีกบ้าง? นวัตกรรมนี้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้า จากการนำเลือดของตัวเองมาปั่นแยก คัดเฉพาะพลาสมาที่มีเกล็ดเลือด รวมถึงโกรทแฟคเตอร์ (Glowth factor) เข้มข้น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษาเนื้อเยื่อและฟื้นฟูซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอย ผิวขาดความยืดหยุ่น และผิวเสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น PRP จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกลับมาตึงกระชับได้อีกครั้ง อีกทั้งยังช่วยรักษาหลุมสิวบนใบหน้า และลดการสร้างเม็ดสีที่ทำให้ผิวเกิดจุดด่างดำ จึงทำให้ผิวสวยเรียบเนียน และสีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น
ก่อนและหลังทำ PRP ควรดูแลตัวเองอย่างไร
เมื่อทราบกันแล้วว่า PRP ช่วยอะไรบ้าง? ในหัวข้อนี้จะพาทุกคนมาศึกษาถึงข้อควรรู้ก่อนและหลังทำ PRP ว่าควรดูแลตนเองอย่างไรบ้าง
ก่อนทำ PRP
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเช็กก่อนว่าปัญหาสุขภาพที่มี เหมาะกับการฟื้นฟูด้วย PRP หรือไม่
- ศึกษาขั้นตอนการทำ PRP อย่างละเอียด และเลือกรับการรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- เมื่อตัดสินใจทำ PRP แล้ว สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติเลยนั่นก็คือ ดื่มน้ำให้มาก ๆ 1-2 ลิตรต่อวัน ก่อนการทำหัตถการประมาณ 2-3 วันจะดีที่สุด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับบริการ 3 วันเป็นอย่างต่ำ
- งดรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน ก่อนทำ PRP เป็นเวลา 1 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
- งดรับประทานยาต้านการอักเสบ และการแข็งตัวของเลือด ในประเภทกลุ่ม NSIAD ก่อนทำหัตถการ 2-3 วัน
หลังทำ PRP
- งดการรับประทานยาประเภทแอสไพริน (Aspirin) และยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ประมาณ 2-3 วันรวมทั้งกลุ่มยาแก้อักเสบ และสเตียรอยด์ ห้ามรับประทานเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นลดลง
- อาจพบอาการปวดตึงหลังทำ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรง สามารถประคบเย็น และรับประทานยาพาราเพื่อบรรเทาอาการได้
- หากพบอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- งดการออกกำลังกายที่ใช้แรงหนัก
- งดดื่มแอลกอฮอล์
สรุปบทความ
PRP ช่วยอะไรบ้าง? นวัตกรรมนี้เป็นการรักษาที่แพทย์ส่วนใหญ่นิยมใช้ในปัจจุบัน เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยช่วยรักษากล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นฉีกขาด ข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม และบำรุงผิวหน้า รวมถึง PRP ยังช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศชายได้อีกด้วย เพื่อการรักษาให้มีประสิทธิภาพและได้ผลดีมากสุด ควรทำหัตถการนี้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่มีความชำนาญในการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา Trin Wellness เราเป็นคลินิกดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยมาตรฐานระดับสถานพยาบาล มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยตรวจสุขภาพให้คุณอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของปัญหานั้น ๆ และทำการรักษาได้อย่างตรงจุด
Leave a reply
Leave a reply