ตอบปัญหา ช่วยตัวเองทำให้ผมร่วงจริงหรือไม่
ช่วยตัวเองทำให้ผมร่วง จริงไหม? เป็นปัญหาที่หนุ่ม ๆ หลายคนกังวล กลัวว่าตัวเองจะมีผมบางจนทำให้ศีรษะล้าน เพราะเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติและการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองก็เป็นเรื่องปกติ ถือว่าเป็นการปลดปล่อยความเครียด แต่หลาย ๆ คนก็อาจเคยได้ยินมาว่าช่วยตัวเองบ่อยทำให้ผมร่วง จึงอยากที่จะรู้คำตอบกันว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่? ทาง Trin Wellness จะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อมกัน
การช่วยตัวเองบ่อยๆ ทำให้ผมร่วงได้จริงไหม
ช่วยตัวเองบ่อยทำให้ผมร่วงจริงไหม? เป็นข้อสงสัยที่หนุ่ม ๆ อยากรู้กัน ต้องขอตอบเลยว่า”ไม่เป็นความจริง“ ไม่มีความสัมพันธ์ในทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวว่าการช่วยตัวเองทำให้ผมร่วงแต่อย่างใด การช่วยตัวเองไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเส้นผม แต่จะช่วยคลายเครียด สร้างสารแห่งความสุข และทำให้นอนหลับสนิทยิ่งขึ้น แต่ต้องอยู่ในครอบเขตที่พอประมาณ และไม่หมกมุ่นจนเกินไป
แนวคิดที่ว่าช่วยตัวเองบ่อยทำให้ผมร่วง อาจมาเหตุผลที่ว่า น้ำอสุจิมีโปรตีนในระดับสูง ซึ่งการหลั่งในแต่ละครั้งร่างกายจะเสียโปรตีนส่วนหนึ่งไป หลายคนก็อาจคิดว่าเพราะเหตุนี้ จึงส่งผลให้ขาดโปรตีนที่จะไปบำรุงเส้นผม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาจะน้อยมากในแต่ละครั้ง จึงไม่ได้ส่งผลกับร่างกายมากขนาดนั้น
สาเหตุที่แท้จริงของอาการผมร่วงมีอะไรบ้าง
คงได้คำตอบกันแล้วว่า ช่วยตัวเองทำให้ผมร่วง เป็นความเชื่อที่ผิด แต่แท้จริงแล้วอาการผมร่วงจะมีสาเหตุจากอะไรบ้างนั้น มาติดตามในหัวข้อนี้ไปพร้อมกันได้เลย
- ฮอร์โมนเพศชายที่มีการเปลี่ยนแปลง : เมื่อคุณผู้ชายมีอายุมากขึ้น ฮอร์โมนเทสเทอโรน (Testosterone) จะเปลี่ยนเป็นไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน (Dihydrotestosterone / DHL) หากร่างกายมีฮอร์โมน DHL เพิ่มขึ้น จะทำให้รากผมอ่อนแอลง และเกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย มักเริ่มร่วงจากบริเวณหน้าและเว้าร่นลึกเข้าทางซ้ายและขวาก่อน มีลักษณะเป็นรูปตัวเอ็ม (M) ที่บริเวณกรอบหน้า
- กรรมพันธุ์ : โดยปกติแล้วปัญหาผมร่วงจากสาเหตุกรรมพันธุ์ สามารถเกิดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่จะพบบ่อยในเพศชาย โดยเฉพาะเพศชายที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ผมจะเริ่มร่วงมากขึ้น เรียกได้ว่ายิ่งอายุเพิ่มขึ้น ผมก็จะร่วงมากขึ้นตามอายุ เนื่องจากหนังศีรษะมีความไวต่อฮอร์โมน DHL
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท : สำหรับการใช้ยาบางประเภท จะก่อให้เกิดปัญหาผมร่วง จนผมบางได้ ไม่ว่าจะเป็นยาเคมีบำบัด ยาลดความดันบางชนิด หรือยาลดความเครียด เป็นต้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดผมร่วง เช่น ผู้ที่มีความวิตกกังวลมาก จะฮอร์โมนแห่งความเครียดทำให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต และขาดหลุดร่วงได้ง่าย รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและดื่มแอลกอฮอล์
พฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ชายผมขาดหลุดร่วง
หลังจากทราบกันแล้วว่าช่วยตัวเองบ่อยทำให้ผมร่วงนั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่? ในหัวข้อนี้จะพาทุกคนมาศึกษากันว่ามีพฤติกรรมแฝงอื่น ๆ อะไรบ้าง ที่นอกเหนือจากสาเหตุข้างต้นที่ทำให้ผมร่วง
- การใช้น้ำร้อนสระผม : อุณหภูมิน้ำที่ใช้สระผมมีความสำคัญต่อสุขภาพเส้นผม น้ำที่ร้อนมากเกินไปจะทำให้ผมแห้งเสีย ผมแข็งกระด้าง และหนังศีรษะแห้ง ทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้
- การเลือกใช้หวีซี่ถี่ : การหวีผมด้วยหวีซี่ถี่หลังสระผมจะมีส่วนทำให้ผมร่วงได้ เพราะหลังจากที่สระผม จะเป็นช่วงที่รากผมอ่อนแอที่สุด การใช้หวีซี่ถี่จะส่งแรงดึงในการหวีต่อรากผม จึงทำให้ผมหลุดร่วงง่าย
- นอนขณะผมเปียกชื้น : การไม่เป่าผมให้แห้งแล้วนอนขณะผมเปียก อาจก่อให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะและทำให้หนังศีรษะอักเสบ จนนำไปสู่ภาวะผมขาดหลุดร่วงเรื้อรังตามมาได้
- ทำสีผมและดัดผม : เนื่องจากสารเคมีต่าง ๆ ที่ปรับแต่งทรงผม จะเป็นอันตรายต่อเส้นผม ทำให้ผมแห้ง ขาดหลุดร่วง ผมแข็งกระด้าง ทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและอักเสบ จึงเกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วงตามมาได้
- การใช้ความร้อนสูงปรับแต่งทรงผม : หากเส้นผมและโคนผมโดนความร้อนสูง จะทำให้เส้นผมแห้งกรอบ ขาดหลุดร่วงได้ ดังนั้นการเป่าผมให้แห้ง แนะนำให้ใช้ลมเย็นจะดีกับสุขภาพเส้นผมมากที่สุด
- แสงแดด : หลายคนอาจไม่ทราบว่าการโดนแสง UV จะเป็นอันตรายต่อเส้นผม โดยเฉพาะในช่วง 10.00 น. ไปจนถึง 17.00 น. จึงไม่ควรโดนแสงชนิดนี้โดยตรง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้กางร่มหรือสวมหมวกเพื่อช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ
- สวมหมวกเป็นระยะเวลานาน : การสวมหมวกนาน ๆ ทำให้หนังศีรษะถูกอบไว้ มีโอกาสเกิดปัญหารูขุมขนอักเสบจนเกิดสิวบริเวณหนังศีรษะ ทั้งนี้ยังทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ และหากหมวกไม่สะอาด ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อเชื้อบนหนังศีรษะได้อีกด้วย
- สูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ มาเลี้ยงเส้นผมได้น้อยลง รากผมขาดสารอาหาร ทำให้เกิดปัญหาผมบางและผมร่วงได้
สรุปบทความ
ความเชื่อที่ว่าการช่วยตัวเองบ่อยทำให้ผมร่วงนั้น “ไม่เป็นความจริง” แต่อย่างใด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงอย่างแท้จริงนั้นเกิดจากฮอร์โมนเพศชายที่มีการเปลี่ยนแปลง กรรมพันธุ์ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท และพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นหลัก หากคุณผู้ชายมีปัญหาผมร่วงอยู่ แนะนำให้เลิกทำพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมดังข้างต้น
หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วแต่ก็ยังมีปัญหาผมร่วงอยู่ หรือมีปัญหาสุขภาพเพศชายอื่น ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง Trin Wellness Clinic เราพร้อมบรรเทาปัญหาด้านสุขภาพผู้ชายและช่วยดูแลปัญหาเส้นผมให้คุณ ด้วยวิธีปลูกผมถาวร FUE ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทันสมัย ปลูกผมโดยไม่ผ่าตัด แถมยังไร้รอยแผลอีกด้วย นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหาผมบางได้อย่างแน่นอน
Leave a reply
Leave a reply