วิธีรับมือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ไม่ให้ป่วยหนัก

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศแปรปรวนบ่อย อากาศร้อน อากาศหนาว หรืออากาศชื้นก็ตาม พอมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เลยทำให้แพ้อากาศกันได้ เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน หลายคนที่มีอาการภูมิแพ้อากาศต้องรำคาญใจอยู่บ้าง เพราะอาจทำให้เป็นหวัด หรือป่วยหนักได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีรับมือกับช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง แล้วไม่ให้ตัวเองป่วยหนักต้องรับมือกันยังไงให้ถูกวิธี ก่อนอื่นต้องรู้เกี่ยวกับอาการนี้กันก่อนว่าเป็นอาการแบบไหน  

อาการแพ้อากาศ เป็นอย่างไร

อาการแพ้อากาศ เป็นอย่างไร

กลุ่มคนที่เสี่ยงมีอาการภูมิแพ้อากาศ จะอยู่ในกลุ่มของเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง หากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจะมีปัญหาสุขภาพได้ง่าย เป็นหวัด หรือปวดหัว ตัวร้อน ไม่สบายหนักได้เหมือนกัน ถ้าเริ่มมีอาการไม่สบายอาจใช้ที่วัดไข้เพื่อเช็กอาการเบื้องต้นไปก่อนได้ หรือสังเกตอาการแพ้อากาศหลัก ๆ ได้ตามนี้ 

น้ำมูกไหล 

เป็นอาการที่ร่างกายจะผลิตของเหลวภายในโพรงจมูกเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกมา อาจเป็นน้ำมูกที่ใสปกติ น้ำมูกข้นเขียว มันเป็นกลไกการป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย เช่น ควันดำ  ฝุ่น PM2.5 ละอองเกสรดอกไม้ และสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจระคายเคืองหรืออักเสบได้ หากอาการหนักอาจได้กลิ่นลดลง ไซนัสอักเสบ

อาการเจ็บคอ 

เจ็บคอก็เป็นอีกอาการการที่บ่งบอกถึงการแพ้อากาศ โดยบริเวณคอจะรู้สึกเจ็บหรือรู้สึกระคายเคือง และจะรู้สึกเจ็บมากขึ้นทุกครั้งเวลาไอ อาจมีการติดเชื้อทางเดินหายใจที่บริเวณหลอดลม และอักเสบบริเวณช่องคอ เช่น เนื้อเยื่อช่องคอ ต่อมทอนซิล เพดานอ่อน โคนลิ้น กล่องเสียงเป็นต้น นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คอแห้ง เสียงแหบ

อาการไอ

วิธีรับมือกับอาการแพ้อากาศ ต้องทำอย่างไร

อาการภูมิแพ้อากาศจากการไอ เป็นอาการที่แสดงออกว่าร่างกายกำลังป้องกัน หรือกำลังตอบสนองการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ที่อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคืองจนเกิดอาการไอ เช่น ฝุ่น ควัน เกสรดอกไม้ ซึ่งสามารถแบ่งอาการไอออกได้เป็น 2 ประเภท

  • ไอแห้ง : เกิดจากการระคายคอหรือระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จะมีอาการคันจนกระตุ้นให้เกิดการไอ โดยไม่มีเสมหะปน สาเหตุที่พบได้ เช่น ภาวะกรดไหลย้อน โรคหลอดลมอักเสบ 
  • ไอมีเสมหะ : เกิดจากร่างกายขับสารเมือก หรือสารคัดหลั่งออกมาในระบบหายใจ จนทำให้เกิดอาการไอร่วมกับมีเสมหะ หรือการขับของเหลวออกมาเพื่อช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ติดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ พบในภาวะติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น

วิธีรับมือกับอาการแพ้อากาศ ต้องทำอย่างไร

วิธีรับมือหรือวิธีดูแลตัวเองกับอาการแพ้อากาศในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ติดตัวไว้ เพราะหากละเลยอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไป โดยไม่ได้ใส่ใจ ดูแลร่างกาย แล้วร่างกายแพ้อากาศหนักขึ้น จะทำให้โรคอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ร่างกายแย่ลงกว่าเดิมแนะนำให้ดูแลตัวเองโดยเริ่มจากวิธีง่ายตามนี้ได้ 

วิธีป้องกันไม่ให้แพ้อากาศ 

ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อากาศแนะนำให้เริ่มจากการดูแลตัวเองโดยสามารถทำได้ด้วยสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้เลย เช่น การทานอาหาร ร่างกายที่แข็งแรง สถานที่พักอาศัย และตัวช่วยหากรู้ตัวว่าถ้ามีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจะมีอาการเป็นภูมิแพ้ทันที 

  • เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : ควรเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน ผัก และผลไม้ต่าง ๆ เพราะสารอาหารหรือวิตามินจำพวกนี้ จะสามารถช่วยสร้าง และเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้
  • ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เซลล์เม็ดเลือดขาวจะถูกหมุนเวียนไปทั่วร่างกายจึงสามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมได้
  • ทำความสะอาดบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นประจำ : บ้านเป็นแหล่งที่พักที่เราอาศัย นอนพักผ่อน หากบ้านไม่มีการทำความสะอาดเป็นประจำ ก็จะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นได้
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : หากร่างกายได้พักผ่อนอย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ร่างกายช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นและสารก่อภูมิแพ้ : สถานที่มีส่วนที่จะทำให้เราสะสมมลพิษเข้าไปในร่างกายได้ง่าย เช่น อยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีการก่อสร้าง สถานที่แออัด
  • ตัวช่วยสำคัญ ช่วยดูแลระบบทางเดินหายใจ : หากมีอาการแพ้อากาศบ่อยแนะนำให้มีตัวช่วยให้ทำให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น หรือให้ภูมิแพ้อาการไม่หนักกว่าเดิม จากการมีน้ำมูก ไอ หรือเจ็บคอ เช่น สเปรย์พ่นจมูกธรรมชาติ สเปรย์พ่นคอสมุนไพร ยาแก้ไอสมุนไพร 

สรุปจบบทความ

สภาพอากาศในปัจจุบันทำให้ใครหลายคนแพ้อากาศมากขึ้นกว่าเดิม และมลภาวะทางอากาศในแต่ละวันที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ฝุ่น PM2.5 และเชื้อไวรัส Covid – 19 ดังนั้นการรู้วิธีรับมือเวลาอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยติดตัวไว้ จะทำให้สามารถดูแลตัวเองได้ถูกต้อง และทันต่อการรักษาหากเริ่มมีอาการแพ้ที่หนักกว่าเดิม อยากได้สุขภาพที่ดี หรือไม่อยากเป็นภูมิแพ้อีกต้องเริ่มจากการดูแลตัวเองให้เป็น ซึ่งสามารถกำจัดสารพิษในหลอดเลือด เพื่อช่วยรับมือกับอาการภูมิแพ้อากาศได้ เนื่องจากสารพิษในหลอดเลือดสามารถทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบและตีบตัน ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและเกิดอาการภูมิแพ้นี้ขึ้นได้ ดังนั้นให้ลองกำจัดสารพิษในหลอดเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อช่วยกำจัดสารพิษและโลหะหนักในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ในปัจจุบัน

Leave a reply