รวมเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการทำหมันชาย
“ทำหมันชาย” เป็นอีกหนึ่งวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวรที่แพทย์แนะนำ เพราะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอย่างมาก มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้น้อยมาก เจ็บน้อย และพักฟื้นได้เร็วกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการทำหมันในผู้หญิง
สำหรับคุณผู้ชายท่านใดที่สนใจทำหมันชาย แต่ยังอาจมีข้อกังวลเรื่องต่าง ๆ อยู่ โดยเฉพาะหลังจากทำหมันชายยังหลั่งได้ไหม? หรือทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไหม? ไม่ต้องกังวลไป เพราะ ดร. ตฤณ เวลเนส คลินิก จะพาคุณไปเจาะลึกกับการทำหมันชายเอง หาคำตอบได้ที่นี่เลย
ทำหมันชาย คืออะไร?
ทำหมันชาย (Vasectomy) คือ การคุมกำเนิดแบบถาวรในผู้ชาย โดยแพทย์จะทำการตัดและผูกท่ออสุจิทั้ง 2 ข้าง เพื่อทำให้ไม่มีการลำเลี้ยงอสุจิจากอัณฑะไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิที่อยู่ด้านหลังต่อมลูกหมาก ทำให้เวลาที่น้ำอสุจิหลั่งออกมาก็จะไม่มีตัวอสุจิเหลืออยู่ จึงไม่ทำให้เกิดการปฏิสนธิ หรือตั้งครรภ์นั่นเอง
การทำหมันชายนั้น จะใช้วิธีการเข้าไปตัดและผูกท่อทางเดินอสุจิเท่านั้น ไม่ได้ไปยุ่งกับระบบการสร้างฮอร์โมนชายเลย หลังจากที่ทำหมันไปแล้ว ร่างกายจะยังผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ตามปกติ จึงไม่ส่งผลต่ออารมณ์ความต้องการทางเพศ ไม่ทำให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้งยังสามารถหลั่งน้ำอสุจิ และอวัยวะเพศชายก็สามารถแข็งตัวได้ตามปกติด้วย
ทำหมันชาย เหมาะกับใคร?
การทำหมันชายจะเหมาะสำหรับคุณผู้ชายที่ไม่ต้องการมีลูกแล้ว และกำลังมองหาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการทำหมันชาย
การทำหมันชาย มีขั้นตอนดังนี้
- แพทย์จะทำการฉีดยาชาที่บริเวณถุงอัณฑะ
- หลังจากนั้นจะใช้เครื่องมือปลายแหลมเจาะผ่านผิวหนังเข้าไป โดยแผลจะมีรูเล็ก ๆ ขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตรเท่านั้น
- แพทย์จะเกี่ยวท่อนำอสุจิออกมา แล้วทำการตัดท่อนำอสุจิและผูกปลายเข้าหากัน ก่อนที่จะให้ท่อนำอสุจิกลับลงไปใต้ผิวหนัง
- แพทย์ทำการปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ปิดแผล แล้วให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดไปนั่งพักสังเกตอาการประมาณ 30 – 60 นาที ถ้าไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถกลับบ้านได้เลย
การเตรียมตัวก่อนทำหมันชาย
การเตรียมตัวก่อนทำหมันชายอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย และทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนทำหมันชาย มีดังนี้
- หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยารักษาโรค หรืออาหารเสริมใด ๆ อยู่ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ควรตัดขนบริเวณอัณฑะให้สั้น (หลีกเลี่ยงการโกน)
- ทำความสะอาดบริเวณขาหนีบ และอวัยวะเพศ และไม่ต้องทาแป้ง
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย มีขนาดพอดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป
การดูแลตนเองหลังทำหมันชาย
หลังจากทำหมันชายแล้ว จะต้องดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยแพทย์มักแนะนำให้ดูแลตนเองหลังทำหมันชาย ดังนี้
- ควรนอนหลับพักผ่อน และอยู่นิ่ง ๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- รับประทานยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ 3 – 4 วัน หลังผ่าตัด
- งดออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก หรือทำงานที่ใช้แรงเยอะ 3 – 4 วันหลังผ่าตัด
- งดกิจกรรมทางเพศทุกวิธี 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ไปพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามผลการรักษา
- ถ้าหากมีอาการผิดปกติ (พบได้น้อยมาก) เช่น มีเลือดออก เลือดคั่งในอัณฑะ แผลติดเชื้อ หรือรู้สึกปวด บวม หรือเจ็บอัณฑะ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
ทำหมันชาย เจ็บมากไหม?
การทำหมันชายเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 2 – 3 นาที ซึ่งในระหว่างผ่าตัดก็อาจรู้สึกเจ็บ ๆ หรือจุก ๆ ได้บ้าง แต่อยู่ในระดับที่สามารถทนได้ และแพทย์จะฉีดยาชาก่อนทำ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด
ทำหมันชายยังหลั่งได้ไหม?
หลังจากที่ทำหมันชายไปแล้ว จะยังคงมีความต้องการทางเพศ อวัยวะเพศชายสามารถแข็งตัว และหลั่งน้ำอสุจิได้ปกติ ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด
สรุปเรื่องทำหมันชาย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับทำหมันชายที่ดร. ตฤณ เวลเนส คลินิก นำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยทำให้คุณรู้จักกับการทำหมันในผู้ชายมากยิ่งขึ้น และรู้ว่าการทำหมันชายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพและมีผลข้างเคียงน้อยมาก ๆ ด้วย และสำหรับคุณผู้ชายท่านใดที่มีปัญหาด้านสุขภาพเพศชายอื่น ๆ เช่น เป็นวัยทองในผู้ชาย หย่อนสมรรถภาพ น้องชายไม่แข็งตัวหลั่งเร็ว หรือหลั่งช้า ก็สามารถติดต่อนัดหมายเข้ามาพบแพทย์ที่คลินิกได้เลย แพทย์ของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาของผู้ชายอย่างมาก ทุกเคสให้การดูแลอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้เลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!
Leave a reply
Leave a reply